This movie has addressed that everone has own responsibility.
วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ชื่อน.ส.พรทิพา สมพมิตร ชื่อเล่น อ้อย
ฉันได้ไปเที่ยว ทะเล สนามกีฬารังนก ทะเลสาปสุริยันจันทรา พิพิธภัณฑ์เจียงไคเช็ค และที่ฉันชอบที่สุดในการไปครั้งนี้ก็คือ
ตึก ไทเป101 ซึ่ง ณ เวลานั้นตึกไทเป101เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 509 เมตร มี 101 ชั้น ภายในตึกที่เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายเริ่มตั้งแต่
ก้าวเท้าเข้าไปในตึกก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการ และอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือลิฟที่ใช้ขึ้นไปยังจุดที่ชมวิวหรือจุดที่สูงที่สุด
ฉันตกใจมากที่รู้ว่ามันใช้เวลาเพียง 37 วินาทีเท่านั้น ตอนที่ฉันก้าวขาเข้าไปในลิฟฉันรู้สึกกลัวอยู่นิสๆๆวันมันจะเบรกไม่อยู่แล้วทะลุ
หลังคาออกไปหรือป่าว ก็พี่แกเล่นเร็วซะขนาดนั้น แต่เมื่อประตูลิฟปิดฉันก็ต้องพบกับความตกใจอีกครั้งเมื่อพนักงานที่อยู่ในลิฟเริ่มกล่าวต้อนรับ
และในลิฟก็เข้าสู่ความมืดเพียงชั่วอืดใจบนเพดานของลิฟก็เรื่มปรากฎแสงไฟดวงเล็ก และเพิ่มประมาณขึ้นเรื่อยๆๆๆ จนเต็มลิฟมันดูเมื่อเราอยู่
ออกโลกแล้วกำลังมองดูจักรวาลที่กว้างใหญ่ ฉันกำลังตื่นตาตื่นใจกันสิ่งที่ปรากฎอยู่ ณ ตอนนี้ก็มีเสียงที่พูดมาคนเดียวตั้งแต่ลิฟปิดแต่ก็ไม่มีใครสน
ใจว่าเธอพูดอะไร เธอพูดความว่า Thank you เป็นคำสุดท้ายแล้วประตูลิฟก็เปิดออก ทำให้ฉันรู้สึกตัวทันทีว่า อ่าวถึงแล้วหรอยังไม่ทันกลัวเลย--*
พอถึงข้างบนก็มีพนักงานมาต้อนรับพร้อมกับอุปกรญ์ช่วยชีวิตนั้นก็คือ เครื่องแปลภาษา พนักงานอธิบายวิธีการใช้แล้วก็ปล่อยให้เราเดินชวนประเทศไต้หวันจากจุดที่สุดที่สุด ฉันเดินดูทุกด้านเลย แล้วที่ชอบรู้สึกแปลงใจก็คือ มันมีลูกกลมๆ คล้ายๆ ลูกบอลขนาดใหญ่ห้อยอยู่กลางตึก ฉันเลยถามคุณพี่พนังงานจึงได้คำตอบออกมาว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ตึกไม่หักลงมาเมื่อมีแผ่นดินไหว โอ้โห คิดได้ไง
และสุดท้ายก่อนที่ฉันจะลงมาจากตึก ฉันได้ซื้อ Post card ส่งกลับมาที่บ้านที่เมืองไทยด้วย
ส่งจากที่ที่สูงที่สุดในโลกเลยนะ (จะบอกให้) 55+ -..-
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ฉันและครอบครัวไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวันประเทศไต้หวันเป็นเกาะที่มีลักษณะเหมือนเม็ดข้าวหรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เกาะฟอโมซา
ไต้หวันเป็นประเทศที่เล็กมาก เพราะในหนึ่งวันฉันสามารถไปเที่ยวภาคเหนือในตอนเช้าแล้วตอนเย็นก็ไปเที่ยวที่ภาคใต้ฉันได้ไปเที่ยว ทะเล สนามกีฬารังนก ทะเลสาปสุริยันจันทรา พิพิธภัณฑ์เจียงไคเช็ค และที่ฉันชอบที่สุดในการไปครั้งนี้ก็คือ
ตึก ไทเป101 ซึ่ง ณ เวลานั้นตึกไทเป101เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 509 เมตร มี 101 ชั้น ภายในตึกที่เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายเริ่มตั้งแต่
ก้าวเท้าเข้าไปในตึกก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการ และอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือลิฟที่ใช้ขึ้นไปยังจุดที่ชมวิวหรือจุดที่สูงที่สุด
ฉันตกใจมากที่รู้ว่ามันใช้เวลาเพียง 37 วินาทีเท่านั้น ตอนที่ฉันก้าวขาเข้าไปในลิฟฉันรู้สึกกลัวอยู่นิสๆๆวันมันจะเบรกไม่อยู่แล้วทะลุ
หลังคาออกไปหรือป่าว ก็พี่แกเล่นเร็วซะขนาดนั้น แต่เมื่อประตูลิฟปิดฉันก็ต้องพบกับความตกใจอีกครั้งเมื่อพนักงานที่อยู่ในลิฟเริ่มกล่าวต้อนรับ
และในลิฟก็เข้าสู่ความมืดเพียงชั่วอืดใจบนเพดานของลิฟก็เรื่มปรากฎแสงไฟดวงเล็ก และเพิ่มประมาณขึ้นเรื่อยๆๆๆ จนเต็มลิฟมันดูเมื่อเราอยู่
ออกโลกแล้วกำลังมองดูจักรวาลที่กว้างใหญ่ ฉันกำลังตื่นตาตื่นใจกันสิ่งที่ปรากฎอยู่ ณ ตอนนี้ก็มีเสียงที่พูดมาคนเดียวตั้งแต่ลิฟปิดแต่ก็ไม่มีใครสน
ใจว่าเธอพูดอะไร เธอพูดความว่า Thank you เป็นคำสุดท้ายแล้วประตูลิฟก็เปิดออก ทำให้ฉันรู้สึกตัวทันทีว่า อ่าวถึงแล้วหรอยังไม่ทันกลัวเลย--*
พอถึงข้างบนก็มีพนักงานมาต้อนรับพร้อมกับอุปกรญ์ช่วยชีวิตนั้นก็คือ เครื่องแปลภาษา พนักงานอธิบายวิธีการใช้แล้วก็ปล่อยให้เราเดินชวนประเทศไต้หวันจากจุดที่สุดที่สุด ฉันเดินดูทุกด้านเลย แล้วที่ชอบรู้สึกแปลงใจก็คือ มันมีลูกกลมๆ คล้ายๆ ลูกบอลขนาดใหญ่ห้อยอยู่กลางตึก ฉันเลยถามคุณพี่พนังงานจึงได้คำตอบออกมาว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ตึกไม่หักลงมาเมื่อมีแผ่นดินไหว โอ้โห คิดได้ไง
และสุดท้ายก่อนที่ฉันจะลงมาจากตึก ฉันได้ซื้อ Post card ส่งกลับมาที่บ้านที่เมืองไทยด้วย
ส่งจากที่ที่สูงที่สุดในโลกเลยนะ (จะบอกให้) 55+ -..-
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)